เครื่องมือที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมมีมากมายหลายแบบ หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในภาคอุตสาหกรรมนั้นก็คือเครื่อง CMM หรือเครื่องมือวัด 3 มิติ จัดว่าเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตทุกประเภทเลยก็ว่าได้ เรามาทำความรู้จักเครื่อง CMM กันว่า ประโยชน์ของมันจริงๆ คืออะไร มีทั้งหมดกี่ประเภท และที่สำคัญ ทำไมคุณควรมาซื้อเครื่อง CMM ที่ J Tech Machinery ไปหาคำตอบกัน

เครื่อง CMM คืออะไร

เครื่อง CMM หรือเครื่องวัด 3 มิติ (Coordinate Measuring Machine : CMM) ใช้สำหรับตรวจสอบขนาดของชิ้นส่วน วัดรูปทรงเรขาคณิตของวัตถุที่มีความซับซ้อนได้ โดยใช้การตรวจจับจุดที่มีความไม่ต่อเนื่องบนพื้นผิวของวัตถุด้วยระบบสัมผัสหรือ Touch Probe ที่มีความละเอียดและแม่นยำมาก สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรม CAD ได้ เพื่อใช้เปรียบเทียบและตรวจสอบความถูกต้องของชิ้นงาน

ซึ่งเครื่อง CMM นี้ถูกนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมในการวัดระหว่างการผลิต สามารถควบคุมการผลิตได้ทันทีเมื่อเกิดความผิดพลาด เครื่อง CMM เหมาะกับการใช้วัดชิ้นงานหรือวัดวัตถุที่มีความซับซ้อน โดยเครื่อง CMM นี้จะให้ค่าการวัดที่แม่นยำสูงและยังสามารถตรวจสอบคุณภาพของงานแต่ละชิ้นได้ดีอีกด้วย

ประโยชน์ที่ภาคอุตสาหกรรมได้รับจากเครื่อง CMM

• ช่วยประหยัดเวลาในการวัด
• สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำ
• เหมาะกับใช้วัดชิ้นงานที่มีความซับซ้อน
• ลดปัญหาความผิดพลาดระหว่างการผลิต

จุดเด่นของเครื่อง CMM

หัวโพรบ (Prob) ของเครื่อง CMM แบ่งออกได้เป็น 

1. หัวโพรบแบบสัมผัสชิ้นงาน (Touch-Trigger Probes)
   อุปกรณ์ชนิดนี้ไวต่อการสัมผัสชิ้นงาน โดยการสัมผัสกับชิ้นส่วนจะถูกระบุด้วยไฟ LED โดยหัววัดจะติดตั้งอยู่ที่ปลายแกนเคลื่อนที่ของเครื่อง CMM หัวโพรบสามารถหมุนได้ด้วยตัวเอง หัวโพรบแบบริกเกอร์นี้จึงเป็นที่นิยมนำมาใช้งาน ด้วยคุณสมบัติเด่นๆ หลายประการ มีความยืดหยุ่น ช่วยขจัดค่าผิดพลาดในการวัดซ้ำ
   
   
2. หัวโพรบแบบสแกน (Displacement Mesuring CMM Probes)
   เป็นหัววัด CMM ที่ไม่สัมผัสโดนชิ้นงาน โดยใช้การสแกนชิ้นงานแทนการสัมผัสโดยตรง หัววัด CMM จะเคลื่อนที่ผ่านพื้นผิวของชิ้นงาน ทำการสแกนและส่งข้อมูลไปยังระบบการวัดอย่างต่อเนื่อง มีความแม่นยำ ความเร็ว และประสิทธิภาพสูง
   
   
3. หัวโพรบแบบวัดโดยไม่สัมผัสชิ้นงาน (Proximity or Non-Contact Probes)
   หัวโพรบประเภทนี้ถูกออกแบบมาให้เพื่อใช้ในการตรวจจับวัตถุจำพวกโลหะ โดยใช้เซ็นเซอร์ในการตรวจจับในระยะที่กำหนด ไม่มีการสัมผัสโดนวัตถุ นิยมนำไปใช้ในงานที่มีการใช้เลเซอร์และกล้องในการตรวจจับ เหมาะกับการสำรวจพื้นผิวขนาดใหญ่ในเวลาสั้นๆ หัวโพรบนี้มีความแม่นยำต่ำกว่าหัวโพรบแบบสัมผัสเพียงเล็กน้อย

เครื่อง CMM มีทั้งหมดกี่ประเภท

สำหรับการแยกประเภทของเครื่อง CMM จะแยกประเภทตามโครงสร้างของเครื่อง ซึ่งเครื่องวัด CMM แต่ละประเภทจะมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกัน สามารถแยกออกมาได้เป็น 4 ประเภทดังนี้

1. เครื่องวัดประเภท Bridge Type CMM
   เครื่องวัด CMM ประเภท Bridge นี้เป็นเครื่องมือวัดที่นิยมใช้กันมากที่สุดในงานอุตสาหกรรม ตัวเครื่องจะเป็นรูปตัว U คว่ำ มีการออกแบบจุดยึดที่แข็งแรง มีทั้งหมด 2 แบบ คือ แบบติดตั้งอยู่กับที่และแบบที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ แต่มีข้อจำกัดสำหรับเครื่อง CMM ประเภท Bridge นี้อยู่คือ มันสามารถใช้วัดชิ้นส่วนหรือวัตถุที่มีขนาดเล็กถึงขนาดกลางเท่านั้น ที่สามารถยกและวางบนโต๊ะได้ เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง
   
   
2. เครื่องวัดประเภท Gantry CMM
   เครื่อง CMM ประเภท Gantry นี้เหมาะกับการใช้วัดวัตถุหรือชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก ไม่จำเป็นต้องยกขึ้นตั้งโต๊ะ เช่น รถยนต์และอากาศยาน
   
   
3. เครื่องวัดประเภท Cantilever CMM
   เครื่อง CMM ประเภท Cantilever มีจุดเด่นเรื่องการให้ค่าความแม่นยำที่สูงมาก ทำงานได้อย่างรวดเร็วมากกว่าเครื่องวัดประเภทอื่นๆ แต่มีข้อจำกัดตรงที่มันเหมาะกับการวัดชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็กจิ๋ว ตัวเครื่องสามารถเคลื่อนไหวได้น้อย และมีความยืดหยุ่นในการทำงานต่ำกว่าแบบอื่นๆ
   
   
4. เครื่องวัดประเภท Horizontal Arm CMM
   สำหรับการติดตั้งเครื่องวัดประเภท Horizontal จะแตกต่างจาก 3 ประเภทแรกตรงที่ 3 ประเภทแรกติดตั้งในแนวตั้ง ส่วนเครื่อง CMM ประเภท Horizontal นี้ติดตั้งแนวราบตามชื่อของมัน เหมาะกับการใช้วัดชิ้นส่วนหรือวัตถุที่มีแนวนอนยาว แต่มีความแม่นยำไม่มากถ้าเทียบกับอีก 3 ประเภท จุดเด่นคือ รองรับกรวัดชิ้นส่วนขนาดใหญ่ อย่างชิ้นส่วนยานยนต์ หรือชิ้นส่วนของเครื่องจักรขนาดใหญ่

จริงๆ ยังมีเครื่อง CMM อีกหนึ่งประเภท แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักในวงการอุตสาหกรรม คือ เครื่องวัดประเภท Arms style units are fully transportable สามารถเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีที่สามารถนำเครื่องนี้ไปใช้ได้ทุกที่ แต่การใช้งานค่อนข้างยาก ซับซ้อน จึงไม่ได้รับความนิยม 

เทคนิคการเลือกเครื่อง CMM ให้เหมาะกับงาน

หากต้องการได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้เครื่อง CMM จำเป็นต้องรู้เทคนิคการเลือกซื้อเครื่องมือวัดนี้ ในเรื่องของโปรแกรมการทำงานที่เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เครื่อง CMM ทำงานได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องตั้งค่าการใช้งานใหม่หลายรอบ เทคนิคการเลือกซื้อเครื่อง CMM ต้องดูอะไรบ้าง

1. ต้องการวัดชิ้นงานอะไรและที่ไหน
   อย่างที่ทราบกันดีว่า เครื่อง CMM มีให้เลือกหลายประเภทตามจุดประสงค์การใช้งาน ดังนั้น ข้อแรกก่อนจะซื้อเครื่อง CMM เราต้องรู้ก่อนว่าเราจะซื้อไปวัดอะไร ชิ้นงานประมาณไหน มีความซ้บซ้อนหรือไม่ เมื่อเรารู้วัตถุประสงค์ของการวัดชิ้นงานแล้ว เราจะสามารถเลือกเครื่อง CMM ได้อย่างถูกต้อง
   
   
2. เลือกหัวโพรบให้เหมาะกับชิ้นงาน
   ซึ่งเราอธิบายเรื่องหัวโพรบไปแล้วว่ามี 2 แบบ คือ แบบสัมผัสกับแบบไม่สัมผัสวัตถุ ซึ่งแบบสัมผัสชิ้นงานเหมาะกับการนำไปใช้กับงานที่มีขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มาก ส่วนแบบไม่สัมผัสชิ้นงาน เหมาะกับการใช้ในการสำรวจพื้นผิวที่มีขนาดใหญ่ในเวลาจำกัด แต่มีความแม่นยำน้อยกว่าแบบสัมผัสเพียงเล็กน้อย
   
   
3. ซอฟต์แวร์ที่ใช้
   การเลือกซอฟต์แวร์ที่สามารถรองรับการทำงานร่วมกับเครื่อง CMM นั้นจะทำให้เราทำงานง่ายขึ้น สามารถตรวจสอบงานที่ครอบคลุมและส่งข้อมูลได้อย่างสะดวกสบาย สาเหตุที่ต้องนำเรื่องซอฟต์แวร์มาประกอบการพิจารณาก่อนซื้อเครื่อง CMM ก็เพราะว่าภาษากลางสำหรับการเขียนโปรแกรม CMM เช่น DMIS ไม่ได้มีการใช้งานที่หลากหลายมากนัก ทำให้การตั้งค่าในการใช้งานแตกต่างออกไปตามผู้ผลิตเครื่อง CMM นั่นเอง
   
   
4. เลือกซื้อเครื่อง CMM กับตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ
   ในการเลือกซื้อเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างเป็นการลงทุนที่ใช้เงินพอสมควร การซื้อกับบริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายที่มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ในการทำงาน สามารถแนะนำ ให้ความรู้แก่เราได้ ส่วนใหญ่ตัวแทนเหล่านี้จะมีพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว หากเครื่องเกิดมีปัญหา สามารถส่งซ่อมได้เลยหรือสามารถเรียกพนักงานจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายมาดูแลได้เลย ที่สำคัญ ต้องดูว่ามีประกันเครื่องติดมาด้วยหรือไม่

ที่ J Tech Machinery เราเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรกล เครื่องกลึง CNC เครื่องกัด CNC เครื่อง CMM เครื่อง 3D Scanner อุปกรณ์การแพทย์ การก่อสร้า บรรจุภัณฑ์ ฯลฯ จากแบรนด์นำเข้าจาก ญี่ปุ่น และ ยุโรป เกรดคุณภาพ มาตรฐานสากล และมีการรับประกัน

เรายังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญสามารถเข้าไปวางแผนร่วมกับลูกค้าหรือช่วยแนะนำให้กับลูกค้า เพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และหากต้องการซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระ เรายังเป็นตัวกลางระหว่างเจ้าของธุรกิจและธนาคารในการดำเนินการผ่อนสินค้าให้อีกด้วย และทั้งหมดนี้ ก็เป็นเหตุผลที่คุณควรมาซื้อเครื่อง CMM กับเรา J Tech Machinary สำหรับช่องทางการติดต่อของเรามีให้เลือกหลายช่องทาง ตามความสะดวกของลูกค้าเเต่ละท่าน ดังนี้

หากต้องการศึกษาข้อมูลสินค้าหรือบริการเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่

Website : https://www.jtechmachinery.com
Tel: (66)-2-187-0963
Fax: (66) 2-187-0961
Mobile: 092-7546382
Facebook: J TECH Machinery CO.,LTD
Line: @j-tech
E-mail : Info@jtechmachinery.com